++ คัดลอกประวัติของท่านมาจาก อริยะโลกที่ 6 ชำนาญ ใจเอื้อ, http://daily.khaosod.co.th
ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
"หลวงพ่อสงัด จันทสโร" อดีต เจ้าอาวาสวัดสันติคีรีเขต ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พระเกจิชื่อดังของ
อำเภอศรีราชาและภาคตะวันออก เดิมนามสกุล แพงสุข เกิดเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2475 บ้านเกิดอยู่ จ.ปราจีนบุรี
ต่อมาย้ายถิ่นฐานมาอยู่ชุมชนบ้านบางหอย (ชุมชนบ้านใต้ประตูน้ำบางหอย) จ.นครนายก
อุปสมบทที่วัดบางหอย โดยมีหลวงพ่อสอน เป็นพระอุปัชฌาย์
ตั้งใจบวชเพียง 7 วัน จะได้ลาสิกขาออกมาช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนา แต่ท่านได้เป็นครูสอนพระนักธรรมในคราวต่อมา ประกอบกับมีอุปนิสัยชอบศึกษาค้นคว้า หาความรู้พระธรรมวินัย โดยมีหลวงพ่อสอน เป็นพระอาจารย์แนะแนวทางให้ ท่านจึงไม่ลาสิกขา ก่อนเดินเท้าเปล่าธุดงค์ไปทั่วประเทศไทย
ต่อมา เดินธุดงค์มาที่อำเภอศรีราชา และมาปักกลดบริเวณเขาหิน ใกล้โค้งคอเขา อุตพงษ์ ต.ทุ่งสุขลา และพบว่าสถานที่แห่งนี้มีความพิเศษ ท่านจึงเลือกสถานที่แห่งนี้ ตั้งเป็นสำนักสงฆ์สันติคีรีเขต
เริ่มแรกการก่อตั้งนั้น ท่านต้องเจออุปสรรคมากมาย เช่น การสร้างสำนักสงฆ์แห่งนี้ ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก น้ำประปาแรงดันส่งมาไม่ถึง ด้วยจิตใจที่ตั้งมั่น ท่านได้หิ้วน้ำจากบริเวณประตูทางเข้าวัดประตูแรก ที่ติดถนนสุขุมวิท หิ้วน้ำขึ้นไปตาม
ไหล่เขาทุกวัน เพื่อเอาไว้ใช้ให้ญาติโยมได้มีน้ำใช้
แม้ในปัจจุบัน น้ำประปาก็ยังขึ้นไปไม่ถึงด้านบนวัดสันติคีรีเขต แต่ด้วยความสามารถของหลวงพ่อสงัด ท่านทำที่กักเก็บน้ำไว้ใช้ภายในวัด ใต้กุฏิและศาลาส่วนใหญ่เป็นที่ กักเก็บน้ำ
ท่านเริ่มปลูกต้นไม้และนำชาวบ้านให้รักษาต้นไม้ ฝนจะได้ตกในบริเวณนั้นตรงตามฤดูกาล จากอดีตที่เป็นเขาหิน ก็เริ่มมีต้นไม้ขึ้นเป็นต้นใหญ่ ต้นไม้ในบริเวณวัด จากทางเข้าถนนสุขุมวิทมาถึงแนวไหล่เขาข้างเจดีย์ ล้วนเป็นป่าปลูกจากแรงกายของชาวบ้านเขาหิน
ส่วนสิ่งปลูกสร้างอารามต่างๆ ล้วนต้องใช้จตุปัจจัยจำนวนมากมาย ทั้งหมดเกิดจากความศรัทธา ผู้พบเห็นบริจาคทรัพย์ด้วยความเต็มใจ
ทั้งนี้ ในช่วงที่ตั้งสำนักสงฆ์สันติคีรีเขตใหม่ๆ ยังไม่มีสถานที่ประกอบศาสนกิจ ในวันพระใหญ่ หลวงพ่อสงัด จึงลงจากเขา สวดพระปาติโมกข์ที่อุโบสถวัดราษฎร์นิยมธรรม หรือวัดนอก ตลาดศรีราชา เป็นประจำ ซึ่งขณะนั้น พระครูสาธิตธรรมนาท หรือ หลวงพ่อโพธิ์ ยังเป็นเจ้าอาวาส
หลังจาก หลวงพ่อโพธิ์ ละสังขาร ท่านก็ยังมาสวดปาติโมกข์ทุกวันพระใหญ่ที่วัดราษฎร์นิยมธรรม อยู่เป็นประจำ โดยมีพระครูสาธิตกิตติญาณ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์นิยมธรรม รูปปัจจุบัน คอยดูแลอยู่ตลอด
ต่อมาสำนักสงฆ์สันติคีรีเขต ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเป็นวัด นับเป็นสำนักสงฆ์เพียงแห่งเดียวของอำเภอศรีราชา และมีพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตอุโบสถ เมื่อปี พ.ศ.2558 ซึ่งหลวงพ่อสงัด จัดพิธีอย่างเรียบง่าย
ด้านวัตถุมงคล หลวงพ่อสงัด จัดสร้างหลายรุ่น แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุด คือ "พระสมเด็จรุ่น 1" ซึ่งมีชื่อเต็มว่า "พระสมเด็จเวชนียสถาน 4 ตำบล" ประกอบด้วย ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศ นาและปรินิพพาน ที่หลวงพ่อสงัด เดินทางไปอินเดียและเก็บมาด้วยตัวเอง พร้อมมวลสารด้านพุทธคุณครบถ้วนตามตำรา สร้างเมื่อปี พ.ศ.2522-2523 โดยที่ฐานขององค์พระเป็นรูปเรือหงาย ด้านหลังเป็นยันต์ มะ อะ อุ ซึ่งผู้ที่มีไว้ในครอบครองต่างหวงแหน โดยเฉพาะชาวศรีราชา
หลวงพ่อสงัด จันทสโร มรณภาพ อย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2560 สิริอายุ 85 ปี พรรษา 60 ...”
ภาพถ่ายเมื่อปี พ.ศ.2525
"ภาพในวัยหนุ่ม" ภาพนี้ขนาดโปสการ์ด (สูงประมาณ 5 นิ้ว)
ไม่ทราบปีที่ถ่าย โดยคาดว่าจะอยู่ในช่วงก่อนหรือในปี พ.ศ.2496 (ก่อนเข้าเป็นทหาร)
หรือในช่วงปี พ.ศ.2498-2500 (หลังปลดจากทหารในกองประจำการถึงช่วงก่อนบวช)
ถ่ายที่ร้านสมัยศิลป์ หลังสถานีรถไฟปราจีนบุรี (ปัจจุบันร้านนี้ไม่มีอยู่แล้ว)
ภาพนี้ในคราวเดียวกันกับข้างต้น มีขนาด 2 นิ้ว
ภาพนี้ไม่ทราบข้อมูลว่าถ่ายไว้เมื่อไร ที่ไหน
โดย หลวงพ่อตี๋ สุวณณโชโต อดีตเจ้าอาวาสวัดพรหมวิหาร พระเกจิผู้มีคุณูปการต่อชาวตำบลแม่สาย จ.เชียงราย (หลวงพ่อตี๋ ท่านเป็นคนบ้านปลาเค้า ตำบลท่างาม เมืองปราจีนบุรี) ได้ถ่ายรูปไว้ในฉากหลังเดียวกันด้วย
ภาพบัตรประจำตัวของ "พลทหาร สงัด แพงสุข"
สังกัด กองพันที่ ๒ กรมทหาราบที่ ๒
เข้ารับราชการในกองประจำการ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖
ปลดประจำการเป็นทหารกองหนุน เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๘