+ ด้านหลังหนุมานเชิญธง เป็นพระเนื้อผงยุคต้นของหลวงปู่
ขนาดกว้าง 2.6 ซ.ม. สูง 3.4 ซ.ม.
(16.8.6.Viv)
***รับประกันเป็นพระแท้***
กรุณาอ่านตรงนี้ก่อน
*** ขายตามราคาที่ลงไว้ + ค่าส่งทาง ปณ.ตามที่แจ้งไว้ โดยโอนเงินค่าสินค้าเข้า บช.ธนาคารของร้าน หรือทำรายการสั่งซื้อในร้านและชำระเงินตามช่องทางของ LnwPay
ไม่มีแบบเก็บเงินปลายทาง, ไม่มีการนัดรับพระฯ
*** สภาพตามรูปที่ลงไว้ ไม่ถ่ายรูปสดเพิ่มเติม, ไม่ถ่ายพระฯกับบัตรประชาชน/หน้าสมุดบัญชีธนาคาร
(มีพระฯจำนวนมากจะนำพระฯออกมาเพื่อแพคส่งเท่านั้น, หากท่านไม่เชื่อถือในเครดิตของร้านก็ขอให้ผ่านได้เลย จะได้ไม่เป็นการเสียเวลาทั้งสองฝ่าย)
ขอเชิญเข้าเยี่ยมชมหน้าร้านอัปสรา อมิวเลท ที่lnwshop => http://apsara-amulet.lnwshop.com/
และที่หน้าร้านหลัก => https://www.web-pra.com/shop/apsara-amulet
การติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทาง line id : apsara888

++ คัดลอกประวัติของท่านมาจาก คุณsuthon, www.g-pra.com
ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
“ ประสบการณ์สุดยอด เขาว่าเหนียวจริง หลวงปู่หนู ผู้สยบระเบิด
หลวงปู่หนู ฉินนกาโม มีนามเดิมว่า หนู เจริญวิทยา เกิดเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ ที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี จบชั้นประถมปีที่ ๔ โรงเรียนวัดหนองโพ จากนั้นได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้ นักธรรมโท ขณะบวชเป็นสามเณร ท่านได้สนใจศึกษาวิชาทางไสยศาสตร์และเวทมนตร์คาถาพุทธาคม ต่าง ๆ จึงไปเรียนกับ หลวงพ่อหลาบ วัดเนินตอ และหลวงพ่อหลุง วัดทุ่งสมอ อีก ๓ ปี กระทั่งอายุครบบวชในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ จึงทำการอุปสมบทที่ วัดใหม่เจริญผล แล้วไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์วัดเขาคร้อ หนึ่งพรรษาและได้เรียนวิชาพุทธาคม และวิปัสสนากับ หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี ( อาจารย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ) จึงถือได้ว่าเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงพ่อปานนั่นเอง จากนั้นได้ไปเรียนวิชากับ หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง และหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม ซึ่งระหว่างเรียนวิชากับ หลวงพ่อแช่ม นั้นท่านได้พบกับศิษย์อีกคนหนึ่งของหลวงพ่อแช่มที่มาเรียนด้วย คือ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นครปฐม จากนั้นจึงไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์วัดเขาคร้อ จนคณะสงฆ์เห็นใน ศีลาจารวัตรของท่านเหมาะสมจึงนิมนต์ให้ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสวัดกระต่ายเต้น จ.กาญจนบุรี ครั้นเมื่อชาวบ้านทุ่งแหลมเห็น ต่างเลื่อมใสในศีลาจารวัตรจึงนิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่วัดทุ่งแหลม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยได้ทำการพัฒนาวัดทุ่งแหลมจนเจริญก้าวหน้าเป็นลำดับต่อมา ระหว่าง อยู่วัดทุ่งแหลมนี้เองมีประชาชนเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านมาก ท่านจึงได้สร้างมงคลวัตถุออกแจกจ่ายแก่ประชาชน และศิษยานุศิษย์มากมายหลายรุ่น ซึ่งก็มีประสบการณ์มากมาย
จวบจนกระทั่งถึงวันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๙ ท่านจึงละสังขารมรณภาพอย่างสงบ คงทิ้งไว้แต่อนุสรณ์แห่งความดีงามและมงคลวัตถุตลอดจนสังขารที่ไม่เน่าเปื่อย ซึ่งทางวัดได้ใส่หีบแก้วไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจแก่ศิษยานุศิษย์ผู้เลื่อมใส ศรัทธาต่อไป วัตถุ มงคลที่ท่านสร้างขึ้นมีจำนวนน้อยและเป็นที่ต้องการของศิษยานุศิษย์เป็นจำนวน มาก เพราะพระมีประสบการณ์ ในพื้นที่ต่างกล่าวขานและรู้ซึงถึงเรื่องพระพุทธคุณเป็นอย่างดี “