หมวดหมู่ | พระแท้ประจวบฯ, กาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี |
ราคา | 3,500.00 บาท |
สถานะสินค้า | พร้อมส่ง |
ลงสินค้า | 17 มี.ค. 2560 |
อัพเดทล่าสุด | 13 มิ.ย. 2565 |
คงเหลือ | 1 1 |
จำนวน | 1 |
+ จัดสร้างในวาระอายุครบ 7 รอบ เมื่อ พ.ศ.2537 นิยม หายาก
สร้างจำนวนน้อย
- เนื้อทองคำ 84 องค์
- เนื้อเงิน 108 องค์
- เนื้อทองผสม 1,984 องค์
+ องค์นี้เนื้อทองผสมเพิ่งผ่านการล้างสนิมเขียวสีเลยเปลี่ยน
(23.2.60)
ประวัติของหลวงพ่อพาน สุขกาโม โดยสังเขป จาก: http://jiraphas.blogspot.com/
หลวงพ่อพาน สุขกาโม ท่านเกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2454 ในสกุล พุ่มอำภา ดั้งเดิมท่านเป็นชาวบ้านกล้วย ตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี และได้อุปสมบท ณ ปี พ.ศ.2475 ณ วัดหนองไม้เหลือง อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี หลวงพ่อพานท่านเป็นพระพี่น้องกับหลวงพ่อเพลิน (พระครูนันทศีลาวัตร) วัดหนองไม้เหลือง อดีตพระเกจิชื่อดังของเมืองเพชรบุรี หลวงพ่อพานท่านย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเฉลิมราษฎร์ บ้านโป่งกระสัง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ พ.ศ.2513 ตั้งแต่วัดยังเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆและท่านก็ได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อพานท่านเป็นพระที่หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ยกย่องเสมอว่าท่านเก่งจริง ขลังจริง วัตถุมงคลที่หลวงพ่อพานสร้าง และมีประสบการณคือเหรียญรุ่นแรก พ.ศ.2519 และเหรียญรุ่นต่างๆ ที่ขึ้นชื่อเลยคือตะกรุดโทนของท่านครับ
หลวงพ่อพาน มรณภาพเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2539 สิริรวมอายุได้ 84 ปี สรีระสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ทางวัดได้เก็บรักษาไว้ในหีบไม้เพื่อให้ญาติโยมลูกศิษย์ได้กราบไหว้
+ คัดลอกมาจาก http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/166093
ขออนุญาตเผยแพร่และขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
"... หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ก็ยังเคยกล่าวยกย่องท่านไว้ เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ พ.ศ.๒๕๓๕ ขณะนั้นหลวงพ่อพาน ยังมีชีวิตอยู่ ชาวบ้านโป่งกะสังได้เหมารถบัสใหญ่ เพื่อไปนมัสการหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ หลวงพ่อคูณได้เห็นเหรียญที่ห้อยคอของผู้ที่ไปนมัสการท่าน จึงได้ถามว่าหลวงพ่ออะไร ได้รับคำตอบว่า เป็นเหรียญของหลวงพ่อพาน วัดโป่งกะสัง หลวงพ่อคูณจึงกล่าวกับผู้ไปนมัสการว่า "พวกเองไม่ต้องมาหาข้าถึงที่นี่ด๊อก มันไกล พ่อพานมึงเก่งยิ่งกว่ากูอีก หรือแม้กระทั่งหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ยังต้องยอมท่าน และยังให้ลูกศิษย์ของตนเองไปเอาของดีจากท่าน"
... "สมัยก่อน ที่ท่านไปหามาด้วยตัวท่านเองกับ คุณครูพจนรินทร์ มุสิกเจียรนันท์ ผู้ขับรถไปกับหลวงพ่อพาน ท่านได้เทโลหะ ตะกรุด แผ่นทองแดงจาร เป็นปฐมฤกษ์ ด้วยตัวท่านเอง หลวงพ่อพานเป็นพระที่ปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านตลอดไม่มีวาระ ถ้าท่านไม่มีกิจนิมนต์หรือไม่ได้จำวัดที่วัด พลบค่ำท่านจะเข้าห้องพระปลุกเสกตลอด" ด.ต.วิรัตน์กล่าวทิ้งท้าย
หลวงพ่อพานมรณภาพเมื่อ วันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๙ รวมอายุ ๘๔ ปี สรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย ถูกเก็บไว้ในโลงไม้ เพื่อลูกศิษย์ได้ชมบารมี
ปาฏิหาริย์ที่ไม่รู้จบ
"ในสมัยก่อน วัดโป่งกะสัง มีหลวงพ่อพานอยู่รูปเดียว คอมมิวนิสต์ชุกชุมมากจริงๆ จึงไม่มีพระรูปใดกล้าอยู่ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดบอกว่า ถ้าได้ยินเสียงปืนมาจากทางวัดรู้ได้ทันทีว่าหลวงพ่อพานโดนยิงอีกแล้ว เพราะว่า ตชด.จะต้องสับเปลี่ยนกำลังพลเป็นประจำ จึงไม่รู้ว่ามีพระเดินจงกลมอยู่"
นี้เป็นส่วนหนึ่งเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพาน
พระครูโสภิตวชิรธรรม เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลือง รูปปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่า ท่านเป็นคนที่นี่ สมัยท่านเป็นเด็กวิ่งเล่นอยู่แถววัดนี้เป็นประจำ หลวงพ่อเพลิน และหลวงพ่อพาน อยู่ที่วัดหนองไม้เหลืองนี้ด้วยกัน กุฎิติดกันโดยมีบันไดทางขึ้นวัด เป็นสิ่งที่กั้นกุฎิไม่ให้ติดกัน และได้ร่วมกันสร้างวัดหนองไม้เหลืองมาด้วยกัน โดยหลวงพ่อเพลิน เป็นผู้สร้างกุฏิสงฆ์ ส่วนหลวงพ่อพานนั้นสร้างศาลาการเปรียญ
ทั้งหลวงพ่อเพลิน และหลวงพ่อพานนั้น ไม่ใช่พี่น้องกันเหมือนอย่างที่ทุกคนเข้าใจกัน หลวงพ่อเพลินแก่กว่าหลวงพ่อพาน ๑๑ พรรษา โดยหลวงพ่อเพลินเล่าให้ฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อเพลินยังเป็นพระลูกวัด หลวงพ่อพานยังเป็นเด็กวัด หลวงพ่อพานจะเรียก หลวงพ่อเพลินว่า “หลวงพี่” จนมรณภาพ ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ คนบ้านแค จ.เพชรบุรี ไปทำมาหากินที่หมู่บ้านโป่งกะสัง ชื่อว่า โยมพลอย น้อยสำราญ โดยโยมพลอยได้ชื่นชอบหลวงพ่อพาน เพราะท่านเป็นพระเด็ดเดี่ยว เด็ดขาด จึงไปขอกับหลวงพ่อเพลินให้ไปเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโป่งกะสัง
โดยในปีแรกที่หลวงพ่อพานมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดโป่งกะสังหลวงพ่อเพลินได้ไปทอดกฐินให้ ได้เงินจำนวน ๓,๐๐๐ บาท โดยหลวงพ่อพานก็ยังไปๆ มาๆ และมาร่วมงานกับหลวงพ่อเพลินเป็นประจำ คนที่หนองไม้เหลืองศรัทธาหลวงพ่อพานมาก เวลาที่วัดโป่งกะสังมีงานครั้งใดๆ ก็จะเหมารถใหญ่หลายคัน ไปช่วยงานหลวงพ่อพาน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อพานได้เล่าให้เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลืองรูปปัจจุบันฟังว่า ตัวท่านได้ออกธุดงค์ไปกับหลวงพ่อเพลิน ถึงที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นถ้ำ หลวงพ่อพานได้บอกกับหลวงพ่อเพลินว่า “หลวงพี่ฉันเอาตรงนี้นะ” เสร็จแล้วทั้ง ๒ รูป ก็ได้ปักกลดในถ้ำแห่งนั้น
โดยคืนนั้น หลวงพ่อพานไม่ได้นอนทั้งคืนเลย มีมดขี้มาเข้ากลดเต็มไปหมด นอนไม่ได้เลยทั้งคืน ส่วนหลวงพ่อเพลินหลับสบาย แต่ก็แปลกพอตอนเช้าแม้แต่ตัวเดียวก็ไม่เห็น หลวงพ่อพานจึงมาเล่าให้หลวงพ่อเพลินฟัง หลวงพ่อเพลินจึงบอกว่า “นั้นแหละเป็นเพราะคุณยินดีต่อสถานที่”
เจ้าอาวาสวัดหนองไม้เหลืองกล่าวต่ออีกว่า งานที่หลวงพ่อพานไม่ไปเด็ดขาดคืองานศพที่ผู้ตายฆ่าตัวตาย ท่านจะไม่ไปโดยเด็ดขาด และในสมัยก่อนมีงานที่วัด จะมีการทำโคมไฟ ส่วนพระก็ทำตะไล ส่วนหลวงพ่อพานได้ทำโคมไฟ ซึ่งเป็นโคมไฟแขวน เสร็จแล้วท่านก็ให้ชาวบ้านที่ทำตะไล เอาตะไลที่ทำมายิงโคมไฟแขวนของท่าน ใครยิงโคมไฟถูกมารับรางวัลจากท่าน ผลปรากฏว่าชาวบ้านที่ทำตะไลมา เอาตะไลที่ทำมายิงโคมไฟ ยิงเท่าไรก็ยิงไม่ถูก ยิงจนหมดปัญญายิง
นอกจากนี้แล้วหลวงพ่อพานยังบอกให้ไปเอาพลุมายิง ชาวบ้านก็ช่วยกันแบกกระบอกยิงพลุ เอาพลุใส่เล็งไปที่โคมไฟแขวน เสร็จแล้วจุดพลุ เสียงระเบิดดัง ตูมๆๆที่กลางอากาศหาถูกโคมไฟไม่ จนชาวบ้านต้องยอมหลวงพ่อพาน “มันก็แปลก โคมไฟแขวนอยู่กับที่ ทำไมยิงไม่ถูกกัน อุตส่าห์เล็งอย่างดี”
***รับประกันเป็นพระแท้***
ท่านที่ดูรายการนี้จาก LnwMall หากไม่มั่นใจในความน่าเชื่อถือ ขอเชิญเข้าเยี่ยมชมหน้าร้านอัปสรา อมิวเลท
http://apsara-amulet.lnwshop.com/
หรือสอบถามเพิ่มเติมทาง line id : apsara888
เลือกช่องทางที่คุณสะดวก เพื่อชำระเงินให้ร้านค้าโดยตรง หากมีข้อสงสัย กรุณา ติดต่อเรา
เลือกช่องทางที่คุณสะดวก เมื่อชำระเงินเรียบร้อย คุณจะได้รับอีเมลยืนยันการชำระเงินทุกครั้ง (LnwPay ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม อ่านรายละเอียด)
หน้าที่เข้าชม | 1,417,638 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,104,997 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 ก.พ. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ต.ค. 2568 |